บันทึกครั้งที่4
วันจันทร์ ที่ 8 กรกฎาคม 2556
-อาจารย์พูดคุยเรื่องบล็อก และตรวจบล็อกของนักศึกษาว่าคนไหนควรปรับปรุ่งตรงไหนบ้างอย่างไร
-กิจกรรมวันนี้
อาจารย์แจกกระดาษA4ให้นักศึกษาคนละ2แผ่น จากให้นักศึกษาตัดกระดาษออกเป็น8ส่วนเท่าๆกัน แล้วเย็บติดให้เป้นสมุดเล่มเล็ก จากนั้นให้วาดภาพลงในกระดาษโดยการต่อภาพทีละแผ่น ให้นักศึกษาสังเกตุว่าเมื่อเปิดสมุดเล่มนั้นจะเกิดอะไรขึ้น แล้วเกิดขึ้นได้อย่างไร ให้นักศึกาษาไปหาคำตอบมาตอบในสัปดาห์หน้า
อาจารย์สาธิตการทดลองวิทยาศาตร์ โดยอาจารย์ใช่ขวดน้ำ 2ขวด ขวดนึงมีน้ำ และอีกขวดไม่มีน้ำ จากนั้นอาจารย์ก็เจาะรูขวดที่ไม่มีน้ำ แล้วอาจารย์ก็เทน้ำจากขวดนึงลงสู่อีขวดนึง ปรากฎว่าน้ำไหนออกมาตามรูที่เจาะ จากนั้นอาจารย์ก็เทน้ำลงขวดเดิมแล้วปิดฝาปรากฎว่าน้ำไม่ไหล สรุปได้ว่าการสาธิตของอาจารย์เป็นเรื่องเกี่ยวกับแรงดันอากาศ
-ดูวีดีโอเรื่องอากาศ ในวิโดโอ ก็จะเล่าถึงเรื่องเกี่ยวกับอากาศวิธีการทดลองต่าง
-ให้นักศึกษาออกไปนำเสนอหน้าชั้นเรียนว่าจะประดิษฐ์ของเล่นวิทยาศาสตร์อย่างไร
ความรู้เพิ่มเติม
หอบไปได้อย่างไร หลายคนเคยถามด้วยความสงสัยว่าเหตุใดเวลาอ่านข่าวหรือ ดูข่าวเกี่ยวกับพายุทอร์นาโดมักจะปรากฎว่า บ้าน รถยนต์ ฯลฯ ถูกหอบไปด้วย การทดลองนี้จะช่วยให้หลายๆคนเข้าใจได้
วัสดุอุปกรณ์
1.ลูกปิงปอง 2 ลูก
2.เชือกขนาดเล็ก 2 เส้น
3.ไม้บรรทัดหนา
4.หนังสือหลายๆ เล่ม
5.เทปใส
วิธีการทดลอง
1.ใช้เทปใสติดปลายเชือกกับลูกปิงปองเส้นละลูก แล้วผูกอีกปลายหนึ่ง เข้ากับไม้บรรทัด ให้ลูกปิงปองห่างกันประมาณ 2 เซนติเมตร
2.วาง ไม้บรรทัดในข้อ 1 ไว้บนขอบโต๊ะโดยให้ส่วนที่มีลูกปิงปองห้อยนั้น อยู่ห่างจากขอบโต๊ะประมาณ 10 เซนติเมตร ใช้หนังสือหลายๆเล่มทับ ไม้บรรทัดด้านที่อยู่บนโต๊ะ
3. เป่าลมผ่านช่องระหว่างลูกปิงปอง ทั้งสองลูกก่อนเป่าให้คาดเดาไว้ว่า จะเกิดอะไรขึ้น สังเกตผล
4.ทำเช่นเดียวกับข้อ 3 โดยเป่าด้วย แรงมากน้อยต่างกัน สังเกตผล
ผลการทดลอง
เมื่อเป่าลมผ่านระหว่างลูกปิงปอง ลูกปิงปองทั้งสองจะเบนเข้าหากัน และยิ่งเป่าแรงมาก ลูกปิงปองก็จะเบนเข้าหากันมากขึ้นและอาจชนกัน การที่ลูกปิงปองเบนเข้าหากันนั้น เนื่องจากเมื่อเป่าลมจะทำให้อากาศ ระหว่างลูกปิงปองเคลื่อนที่ ทำให้บริเวณนั้นมีความดันอากาศต่ำลง อากาศบริเวณที่อยู่ด้านนอกลูกปิงปองทั้งสอง ซึ่งมีความดันอากาศปกติ แต่สูงกว่าอากาศระหว่างลูกปิงปองจะดันลูกปิงปองไปในทิศทางที่อากาศ มีความดันต่ำกว่า
การที่อากาศเคลื่อนที่เร็วทำให้บริเวณนั้นมีความดัน อากาศลดลง ยิ่ง เคลื่อนที่เร็วมากแค่ไหน ความดันอากาศก็จะยิ่งลดลงมากเท่านั้น และนี่ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทอร์นาโด ซึ่งมีความเร็วลมมากอาจถึง 480 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง สามารถทำลายสิ่งต่างๆได้ และหอบเอา บ้าน รถยนต์ และอื่นๆ ไปด้วย
เมื่อเป่าลมผ่านระหว่างลูกปิงปอง ลูกปิงปองทั้งสองจะเบนเข้าหากัน และยิ่งเป่าแรงมาก ลูกปิงปองก็จะเบนเข้าหากันมากขึ้นและอาจชนกัน การที่ลูกปิงปองเบนเข้าหากันนั้น เนื่องจากเมื่อเป่าลมจะทำให้อากาศ ระหว่างลูกปิงปองเคลื่อนที่ ทำให้บริเวณนั้นมีความดันอากาศต่ำลง อากาศบริเวณที่อยู่ด้านนอกลูกปิงปองทั้งสอง ซึ่งมีความดันอากาศปกติ แต่สูงกว่าอากาศระหว่างลูกปิงปองจะดันลูกปิงปองไปในทิศทางที่อากาศ มีความดันต่ำกว่า
การที่อากาศเคลื่อนที่เร็วทำให้บริเวณนั้นมีความดัน อากาศลดลง ยิ่ง เคลื่อนที่เร็วมากแค่ไหน ความดันอากาศก็จะยิ่งลดลงมากเท่านั้น และนี่ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทอร์นาโด ซึ่งมีความเร็วลมมากอาจถึง 480 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง สามารถทำลายสิ่งต่างๆได้ และหอบเอา บ้าน รถยนต์ และอื่นๆ ไปด้วย
การทดลอง: แก้วน้ำมหัศจรรย์
การทดลองเรื่อง แก้วน้ำมหัศจรรย์
เป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์อย่างง่ายๆกับสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา
และเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเราใช้หายใจ สิ่งนั้นก็คือ อากาศนั่นเอง
อากาศนั้นสำคัญไฉน หากไม่มีอากาศ
สิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็คงไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ และเชื่อไหมว่า
อากาศที่อยู่รอบตัวเรานั้นมีแรงดันมหาศาลเพียงใด
หากไม่เชื่อลองทำการทดลองนี้ดูได้เลย
อุปกรณ์
1. แก้วน้ำ 1 ใบ
2. น้ำเปล่า หรือน้ำผสมสี (ใช้สีน้ำหรือสีผสมอาหาร)
3. กระดาษแข็ง ตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีขนาดใหญ่กว่าปากแก้วเล็กน้อย
วิธีการทดลอง
1. ใส่น้ำให้เต็มแก้วจนเกือบล้น
2. ปิดปากแก้วให้สนิทด้วยกระดาษแข็ง (ดังภาพที่ 1 ) พยายามย่าให้มีฟองอากาศระหว่างน้ำและแผ่นกระดาษ
3. ใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งจับกระดาษแข็งปิดปากแก้วให้แน่น แล้วค่อย ๆ คว่ำแก้วลง (ดังภาพที่ 2 ) เหนืออ่างล้างชามหรือกะละมัง หรืออาจทำการทดลองในที่โล่งแจ้ง
4. ปล่อยมือจากกระดาษแข็ง (ดังภาพที่3) สังเกตผลการทดลองที่เกิดขึ้น น้ำหกออกมาจากแก้วหรือไม่
1. ใส่น้ำให้เต็มแก้วจนเกือบล้น
2. ปิดปากแก้วให้สนิทด้วยกระดาษแข็ง (ดังภาพที่ 1 ) พยายามย่าให้มีฟองอากาศระหว่างน้ำและแผ่นกระดาษ
3. ใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งจับกระดาษแข็งปิดปากแก้วให้แน่น แล้วค่อย ๆ คว่ำแก้วลง (ดังภาพที่ 2 ) เหนืออ่างล้างชามหรือกะละมัง หรืออาจทำการทดลองในที่โล่งแจ้ง
4. ปล่อยมือจากกระดาษแข็ง (ดังภาพที่3) สังเกตผลการทดลองที่เกิดขึ้น น้ำหกออกมาจากแก้วหรือไม่
หลาย ๆ คนคงสงลัยแล้วว่าทำไมกระดาษแผ่นเล็ก ๆ แผ่นเดียวจึงสามารถรับน้ำหนักของน้ำได้ จริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่แผ่นกระดาษที่รับน้ำหนักของน้ำ แต่เป็นอากาศภายนอกต่างหาก เนื่องจากอากาศมีแรงดันทุกทิศทาง อากาศจะดันรอบ ๆ แก้ว รวมถึงดันด้านใต้แผ่นกระดาษแข็งด้วย แรงดันของอากาศที่มีต่อกระดาษแข็งนั้นมีมากกว่าแรงดันที่เกิดจากน้ำหนักของ น้ำในแก้ว กระดาษแข็งจึงปิดปากแก้วอยู่ได้โดยไม่หล่นจนกว่ามันจะเปียกน้ำ แต่เมื่อเอียงแก้วน้ำ อากาศจะเข้าไปในแก้ว แรงดันของอากาศภายในแก้วรวมกับแรงดันจากน้ำหนักของน้ำจะช่วยกันทำให้ดันให้ แผ่นกระดาษหลุด น้ำในแก้วก็จะหก โดยปกติแล้ว ตัวเราเองก็ถูกอากาศกดทับอยู่ตลอดเวลาด้วยน้ำหนัก 1 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 1 ตารางเซนติเมตร นั่นแสดงว่าใครที่ตัวใหญ่มากก็จะถูกอากาศกดทับมากด้วย แต่เราคุ้นเคยกับสภาพแรงดันอากาศนี้ จึงไม่รู้สึกตัวว่า กำลังถูกอากาศกดทับอยู่ แต่เมื่อไหร่ที่ขึ้นไปอยู่บนภูเขาสูง ๆ หรืออยู่บนเครื่องบิน ที่อากาศมีแรงดันที่แตกต่างไปจากเดิม เราจะก็รู้สึกได้ เช่นอาจเกิดอาการหูอื้อ หรือ หายใจไม่สะดวก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น